วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554
โลมาตราดเสียชีวิตตัวที่ 4 ของปี 54 ด้านชาวประมงแฉนายทุนสั่งล่าโลมาแล่เนื้อขาย
ที่บ้านหมู่ 5 บ้านสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ .เมือง จ.ตราด นายฉัตรชัย อรชร เลขานุการกลุ่มอนุรักษ์โลมาบ้านสะพานหิน ได้รับแจ้งจาก สมาชิกกลุ่มว่ามีโลมาเสีชีวิตลอยน้ำอยู่บริเวณสุสานโลมา และได้ลากมาที่คลองละวะ เพื่อรอการฝังซากโลมาภายหลัง
โดยโลมาตัวนี้ มีความยาวกว่า 180 ซม. คาดว่ามีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ส่วนลำตัวเป็นสีขาวเนื่องจากการเน่าเปื่อย ด้านหน้าท้องมีไส้ทะลักออกมา บริเวณท่อนหัวมีบาดแผล ปากอ้าออกจากกัน คาดว่าเสียชีวิตมานานกว่า 5 วันแล้ว
นายฉัตรชัย บอกว่า เป็นโลมาตัวที่ 2 ที่เสียชีวิตในปี 2554 และกลุ่มอนุรักษ์โลมาได้เก็บซากไว้ที่สุสานโลมา และเป็นตัวที่ 4 ของจังหวัดตราด (2 ตัวในพื้นที่ ต.แหลมกลัด ต.ไม้รูด 1 ตัว และ ต.คลองใหญ่ 1 ตัว) ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์ฯ มีความพยายามที่จะอนุรักษ์และป้องกันไม่ให้โลมาต้องเสียชีวิตด้วยเครื่องมือ ประมง และแม้ว่าการดำเนินการจะยุ่งยากแต่ทางกลุ่มจะดำเนินการต่อไป
“ผมอยากจะฝากชาวประมงทุกหมู่บ้านช่วยกันรณรงค์ไม่ให้มีการจับโลมาเชิง พาณิชย์เพื่อนำเนื้อมาขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะโลมาคือสัญลักษณ์ของท้องทะเล และเป็นเหมือนเพื่อนของพวกเราที่เป็นชาวประมง เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลบ้านเรา ผมยอมรับว่าเคยกินเนื้อโลมา แน่นอนมครที่กินเนื้อโลมาจะรู้สึกชอบ เพราะเนื้อนุ่มแดง แต่ผมมองว่าโลมาเป็นสัตว์ที่ควรอนุรักษ์มากกว่าที่จะนำมากินเนื้อ”
ขณะที่นายบรรจง จันทร์เกษม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 5 บ้านสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ที่ทำอาชีพประมงจับหมึกโดยใช้หอยจุกพราหมณ์ กล่าวว่า เนื้อโลมามีขายในตลาดเทศบาลคลองใหญ่ แม้จะผิดกฎหมาย แต่ก็ยังมีขายอยู่ ตนเองก็เคยซื้อมากิน แต่เป็นลักษณะการทำเป็นอาหารแล้ว ซึ่งเนื้อจะเหมือนเนื้อวัว เนื้อกวาง แต่มีความนุ่ม เนื้อแดง โดยผู้บริโภคจะชอบนำมาทำแกงป่า หรือแกล้มเหล้า ปัจจุบันก็ยังมีการจับโลมานำเนื้อมาชำแหละขายอยู่ แต่ตนเองไม่ต้องการให้มีการนำมาบริโภคเพราะไม่เกิดผลดีต่อสัตว์น้ำในบริเวณ นี้
อนึ่ง ที่บ้านแหลมเทียน บ้านแหลมญวน ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด มีนายทุนคนหนึ่ง ที่เป็นชาวประมงใช้อวนลากปลาทูล้อมจับโลมาแล้วนำมาชำแหละเนื้อขายกิโลกรัมละ 120-200 บาท ซึ่งหากจับได้จะผูกหางโลมากับเรือแล้วชำแหละเนื้อกลางทะเล ก่อนนำซากทิ้งแล้วนำเนื้อมาขายให้ผู้บริโภคในพื้นที่ 2-3 ตำบลใน อ.เมืองตราด ทุกวันนี้ ก็ยังมีทำอยู่โดยยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปจับกุมแต่ประการใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น